Malaysia Truly Asia

Last updated: 14 ก.ค. 2555  |  8266 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Malaysia Truly Asia

ประเทศเพื่อนบ้าน ได้ยินฉายา Malaysia Truly Asia มานานแล้ว  ใกล้แค่นี้ขอไปพิสูจน์ซักทีว่าเป็นอย่างไร ศึกษาข้อมูลก็พอนึกภาพออกว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม แล้วแตกต่างเกินไปรึเปล่า น่ากลัวรึเปล่า ต้องไปพิสูจน์กัน  เริ่มจากแผนการเดินทางและท่องเที่ยวฉบับย่อกันก่อนเลยค่ะ 

วันที่ 1
7.10 น. ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ
10.15 น.ถึงสนามบิน LCCT (สนามบิน Low cost และขนส่งของมาเลเซีย) เดินทางเข้าเมืองกัวลาลัมเปอร์
12.00 น. ถึง KL Sentral หาข้าวกิน  แล้วเดินออกไปขึ้นรถ Monorail
13.30 น. Check in โรงแรมย่าน Bukit Bintang 
14.15 น. ออกเดินไป Berjaya Times Square  เพื่อไปหาจุดขึ้นรถตู้ไป Berjaya Hills Resort  ซื้อตั๋วรถตู้ล่วงหน้าไว้ของวันถัดไปได้แล้ว   ไปขึ้น Monorail ไปลงสถานี Maharajalela 
14.30 น. เดินตามแผนที่เพื่อไป National Mosque หรือ มัสยิดแห่งชาติ หรือ Negara Mosque แล้วเดินต่อไปยัง Merdeka Square ไปถ่ายรูปกับเสาธงที่ใหญ่ที่สุด และอาคาร Sultan Abdul Samad Bulding  หรือ Big Ben ของมาเลเซีย  แล้วเดินต่อไป Jamek Mosque หรือ มัสยิดจาเมค แล้วเดินต่อ
17.30 น. ไปถึง Central Market แหล่งร้านรวงของฝาก แล้วต่อด้วย Petaling Street หรือ China town ของเค้า 
20.30 น. ไปขึ้นรถไฟฟ้าสาย Rapid KL ต่อเชื่อมออกไปที่รถ Monorail สถานี Bukit Nanas แล้วเดินต่อไป
21.20 น. ถึง Pavillion ลงไปชั้น G หาข้าวกินที่ Food Republic อิ่มแล้วเหลือเวลาไม่มากเดินช้อปปิ้งไม่ทันห้างปิด  กลับเข้าโรงแรม

วันที่ 2 เดินไปขึ้นรถ Monorail ต่อไปขึ้นรถไฟสาย Rapid KL
8.30 น. ไปลงสถานี KLCC ที่ใต้ตึกห้าง Suria เพื่อไปซื้อตั๋วที่ใต้ตึก Petronas Twin Towers แล้วก็เรียกแท็กซี่ไปลงที่ห้าง Berjaya Time Square เดินไปส่วนบริเวณโรงแรม Berjaya Hotel เพื่อรอรถตู้ที่เราซื้อตั๋วไว้ 
10.00 น. รถตู้ออกเดินทางจาก KL เข้าเขตรัฐปาหัง  ไต่ระดับภูเขาสูง 
11.00 น. ไปถึง Colmar Torpicale รีสอร์ทสไตล์ฝรั่งเศสที่ Berjaya Hills Resort เที่ยว ทานอาหาร และถ่ายรูปจนหนำใจ 15.00 น. ขึ้นรถตู้กลับตามเวลา
17.00 น. ไปขึ้นตึกแฝดตามเวลา ถ่ายรูปที่ SkyBridge ชั้น 41 แล้วไปต่อที่ชั้น 86 
18.00 น. ลงมาเดินห้าง Suria 
19.00 น. ขึ้นแท็กซี่กลับที่พัก เก็บของ แล้วออกมาทานข้าวหน้าที่พัก 
20.00 น. เดินห้าง Pavillion จนถึง 22.00 น. กลับโรงแรม 

วันที่ 3  Check Out จากโรงแรม เรียกแท็กซี่ไปส่ง KL Sentral
9.45 น. ถึง KL Sentral  ไปขึ้น Skybus 
10.45 น. ถึงสนามบิน LCCT ฝากกระเป๋า แล้วก็ไปขึ้นรถบัสต่อไปลง KLIA Express เพื่อขึ้นไปลงสถานี Putrajaya Cyberjaya 11.45 น. มีเวลาไม่มาก เลยตัดสินใจเหมาแท็กซี่ 1 ชั่วโมง พาเที่ยวจุดสำคัญของเมือง Putrajaya  
13.00 น. กลับมาขึ้น KLIA Express ต่อรถบัสกลับไปสนามบิน LCCT
13.45 น. เข้าสนามบิน LCCT อีกครั้ง โหลดกระเป๋า ช้อปปิ้งก่อนกลับ 
15.30 น. เครื่องบิน Take off ออกจาก มาเลเซียกลับประเทศไทย 17.00 น. รอรับกระเป๋าเกือบ 30 นาที นานมาก (สุวรรณภูมิควรปรับปรุงด่วน

ทีนี้มาดูการเดินทางโดยละเอียดกันเลยค่ะ

วันแรก ไปถึงสนามบินตั้งแต่ 5.30 น. โหลดกระเป๋า เดินช้อปปิ้งที่ King Power แล้วก็เดินไปซื้ออะไรรองท้องมื้อแรกกันก่อนที่ AuntieAnne’s เป็น Spring Roll ชิ้นละ 95 บาท อร่อย อิ่มกำลังดี


ซื้อแล้วเดินไปนั่งกินตรง Gate คำสุดท้ายยังไม่ทันกลืน เค้าเรียกขึ้นเครื่องแล้ว 7.10 น. ตรงเวลาเป๊ะ เลยต้องไปสั่งน้ำกินบนเครื่อง น้ำแร่ตราสีแดงขวดละ 30 บาท 


แล้วก็ถึง 10.15 น. ที่สนาบิน LCCT (สนามบิน Low Cost และขนส่งสินค้า) บรรยากาศสนามบิน เป็นอย่างนี้เอง 


เดินออกไปตามทางด้านหน้าจะเห็นรสบัสสีชมพูจอดอยู่ มีป้ายตารางเวลาว่ารถเค้าออกทุก 30 นาที  แต่จริงๆแล้วจอดซัก 10 นาทีมีรถคันใหม่มาเทียบเค้าก็ออกเลยค่ะ





ซื้อตั๋วก่อนขึ้นรถเพื่อไปลงสถานีปลายทาง KL Sentral ราคา MYR 12.50 นั่งรถไป 15 นาที รถบัสจะไปจอดให้ขึ้นรถไฟฟ้าด่วนชื่อ KLIA Express ที่สถานี Salak Tinggi แล้วใช้ตั๋วที่ซื้อเมื่อกี้สอดเข้ารถไฟฟ้าไปเลย (ตอนซื้อเค้าจะให้ตั๋วมา 2 ใบ สำหรับขึ้นรถบัส 1 ใบ อีกใบสำหรับสอดเข้ารถไฟฟ้า KLIA Express ค่ะ)  รถไฟฟ้าเค้าสะอาดน่านั่งดี 


ไปถึงสถานี KL Sentral เปรียบเสมือนหัวลำโพงบ้านเรา มีรถไฟฟ้า 3 สายให้เลือก ได้แก่ Monorail, Rapid KL และ KTM  ดูแผนที่รถไฟฟ้าแล้วเราต้องเดินทางโดยรถ Monorail สายสีเขียวไปลงสถานี Bukit Bintang ซึ่งใกล้โรงแรมที่สุด


เดินวนหาไม่เจอ เที่ยงแล้วกินมื้อเที่ยงก่อนดีกว่า หันไปหันมา ร้านนี้แหละ Swiss Oven ดูซิมีอะไรให้กินบ้าง 



เลือกสั่ง Spaghetti Spicy Shrimp กับน้ำสไปร์ท มื้อนี้หมดไป MYR 17.40 



แล้วเดินหาทางขึ้นรถ Monorail งงอ่ะ  ถามดีกว่าเค้าบอกให้เดินไปตามป้ายตรงออกนอกอาคาร ลงบันไดไปเจอคิวรถ skybus แล้วเดินตามทางที่คนเดินออกไปโผล่ถนนเดินตามป้ายไปเจอ KL Monorail เป็นสถานี KL Sentral





แล้วซื้อตั๋ว ราคา MYR 2.10 เพื่อไปลงสถานี Bukit Bintang ลงแล้วเดินมาตามแผนที่จุดแรกเจอแยกที่มีห้าง Lot 10 อยู่ขวามือให้เลี้ยวทางซ้ายตามถนนเพื่อไปหน้าห้าง BB Plaza



ข้ามถนนไปเจอถนนชื่อ Changkat Bukit Bintang มุมด้านขวาเป็น KFC เดินเข้าไปเจอซอยแรกซ้ายมือเลี้ยวเข้าไปเป็นถนน Jalan Alor แล้วมองตึกด้านขวามือเห็นแล้วโรงแรม Apple Hotel ที่เราจองไว้



เข้าไป Check in เวลา 13.30 น. ขอดู Passport แล้วก็จ่ายมัดจำ MYR 100 ได้การ์ดมา 1 ใบ พร้อมกับผ้าขนหนูคนละผืน ห้อง 8 ชั้น 4 ไปดูห้องกันเลยค่ะ




ห้องขนาดกะทัดรัดด้วยราคา 1,1xx บาท/คืน ไม่รวมอาหารเช้า ก็มี 2 เตียง ทางเดินปลายเตียงนิดหน่อยให้พอวางกางกระเป๋า ทีวีบนผนัง น้ำ 2 ขวด ห้องน้ำขนาดพอตัว ความสะอาดปลอดภัยใช้ได้ทีเดียวในราคานี้ย่านถนนช้อปปิ้ง และที่สำคัญ Wifi ฟรีตลอด 24 ชม. แรงสะใจ  จอง Apple Hotel กับ Agoda คลิก



นั่งพักเหนื่อยนิดหน่อยแล้ว  14.15 น. ออกเดินกลับไปทางสถานี Monorail Bukit Bintang ถามทางไป Berjaya Times Square  เค้าว่าใกล้ๆ เดินไปเห็นตึกรำไร 


อ่ะมาถึงแล้ว Berjaya Times Square  เป็นห้างสรรพสินค้าแนวๆประตูน้ำบ้านเรา 


ไปถามป้อมตำรวจด้านหน้าห้างหาข้อมูล ว่ารถตู้ไป Colmar Torpicale ที่ Berjaya Hills Resort  อยู่ที่ไหน ตำรวจบอกไม่รู้เอาล่ะสิ   ให้เข้าไปถามด้านในห้าง  พนักงานห้างบอกให้เดินไปสุดมุมตึกเป็นโรงแรม Berjaya Hotel ไปถามพนักงาน ได้ความว่ารถจะมาจอดรับคนตามตารางเวลาที่โรงแรมนี้  แต่ต้องเดินกลับเข้าห้างไปที่ชั้น 8 ไปซื้อตัว  อ่ะตามนั้น  ขึ้นไปในห้างชั้น 8 เจอ Office ของ The Chateau 



เดินเข้าไปถามเพื่อซื้อตั๋วล่วงหน้าสำหรับวันที่พรุ่งนี้ ตารางเวลาออกจากที่นี่มี 3 เวลา 10.00 น., 13.00 น. และ 17.00 น. และตารางเวลากลับออกจาก Colmar Tropicale มี 3 เวลา 11.30 น., 15.00 น. และ 18.30 น.  เราเลือกรอบขาไป 10.00 น. พนักงานแจ้งว่าเดินทางเกือบ 1 ชม. เพราะฉะนั้นขากลับควรจองเวลา 15.00 น. หรือ 18.30 น. อ่ะตามนั้นขากลับเลือก 15.00 น. ค่าตั๋วไปกลับราคา MYR 55 ต่อคน ได้ตั๋วแล้วรู้จุดขึ้นรถตู้แล้วอุ่นใจว่าได้ไปแน่ๆรีสอร์ทใหม่สไตล์หมู่บ้านฝรั่งเศสในฝัน 



ทีนี้ไปเที่ยวต่อได้แล้ว เดินออกมาหน้าห้าง  Berjaya Times Square  ไปขึ้น Monorail สถานี IMBI ไปลงสถานี Maharajalela ค่าตั๋ว MYR 1.60  ลงแล้วเดินตามแผนที่เพื่อไป National Mosque หรือ มัสยิดแห่งชาติ หรือ Negara Mosque แดดร้อนมากเลยรู้สึกว่าไกลพอสมควรเดินข้ามสะพานข้ามแยกเห็นวิวคลอง และ อาคารแบบนี้คือ Head Quarter of KL Monorail 



ติดกันก็ถึงแล้ว National Mosque 


เดินเข้าไปสำรวจในรั้วแต่เข้าอาคารไม่ได้เพราะแต่งตัวไม่เหมาะสมถ่ายรูปนิดหน่อยแล้วเดินออก  ข้ามถนนแล้วเดินต่อไปยัง Merdeka Square ระหว่างทางเจออาคารหน้าตาแบบนี้



ชื่ออาคาร KOMPLEKS DAYABUMI  มุมดีถ่ายรูปซะหน่อย  เดินต่อไปเจออาคารพิพิธภัณฑ์สิ่งทอ




แล้วเจอสี่แยก ถึงแล้วฝั่งขวามือเป็นลานสนามหญ้า Merdeka Square เหมือนพึ่งจะจัดงานอะไรกันเสร็จมีเต้นท์เก้าอี้ด้วย



ข้างซอยมี Galeri Kuala Lumpur แต่ไม่ได้เข้าไป 


ถ่ายรูปกับเสาธงที่ใหญ่ที่สุด


และอีกฝั่งเป็นอาคาร Sultan Abdul Samad Bulding  หรือ Big Ben ของมาเลเซีย สวยงามจริงๆละแวกนี้





ถ่ายรูปกันจนหนำใจ  แล้วนั่งพักตรงลาดน้ำพุนิดหน่อย



แล้วเดินต่อไป Jamek Mosque หรือ มัสยิดจาเมค  ระหว่างทางร้อนหิวน้ำเข้าไปสำรวจ 7-eleven ซักหน่อย



แล้วเดินจนถึง Jamek Mosque หรือ มัสยิดจาเมค  ไปจังหวะดีเกิน เค้าทำละหมาดอยู่เข้าไม่ได้เลย  ได้แต่ส่องกล้องจากรั้วถ่ายมา 1 รูป



หิวเล็กน้อยเดินมานั่งเติมพลังที่ Burger King หายเหนื่อยแล้ว



ดูแผนที่เดินวกกลับไป Central Market แหล่งร้านรวงของฝาก ระหว่างทางก็เก็บภาพอาคารสีทองสวยอร่าม  ตึกรามบ้านช่อง อ่ะมี Bangkok Bank เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้านอยู่ย่านนี้เอง 




ถ้าเห็นอาคารสีฟ้ากับสัญลักษณ์เหมือนดาวหรือว่าวจุฬาแบบนี้คือถึงแล้ว  Central Market 




เข้าไปเดินดูของฝากพวกช็อคโกแลต หรือ แม็กเน็ท  แล้วเดินต่อไป Petaling Street หรือ Chinatown ของเค้า ถ้าเห็นสัญลักษณ์ซุ้มประตูแบบนี้คือถึงแล้ว



เดินเข้าไปก็เป็นแหล่งขายของฝาก เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา และก็ของ Copy Brandname ทั้งหลาย แนะนำว่าให้ต่อราคาเกินครึ่งได้เลย ส่วนใหญ่สุดท้ายจะยอม ยกเว้นร้านนาฬิกาไม่ค่อยยอมค่ะ เดินจนสุดวกกลับมา  ค่ำแล้วเดินออกมาดูแผนที่ไปขึ้นรถไฟฟ้าสาย Rapid KL ที่สถานี Pasar Seni  เพื่อไปลงสถานี Dang Wangi เดินต่อเชื่อมออกไปที่รถ Monorail สถานี Bukit Nanas ออกมาแล้วเจอสิ่งนี้ ตึกแฝดยามค่ำคืน อีกด้านเป็นหอคอย KL สวยมาก
 


สวยงามนวลตาจริงๆ เก็บภาพแล้วแล้วเดินต่อไปย่าน Bukit Bintang ตัดสินใจเดินเพราะคิดว่าห่างกัน 2 สถานีไม่น่าไกล  แต่รู้สึกว่าคิดผิดค่ะเพราะไกลมากอ่ะ   แต่ก็ไหนๆก็เดินมาแล้วอ่ะ  ก็เดินเก็บภาพไปเรื่อยบอกกับตัวเองว่าอีกนิดถึงแล้ว  จนถึงห้าง Pavillion เวลา 21.20 น. หิวหน้ามืดตาลาย ลงไปชั้น G หาข้าวกินที่ Food Republic อ่ะ มาถึงแล้วต้องลองอาหาร Original ของเค้าซะหน่อย Nasi Lemak Chicken ราคา MYR 8.90  จานใหญ่พอสมควร หน้าตาเป็นไก่ห่อใบเตยทอด มีปลาน้อย ไข่ต้ม ถั่ว ข้าวเกรียบ แตงกวา และน้ำจิ้มราดมา  รสชาติโอเค แต่ข้าวไม่ค่อยนิ่ม 



อิ่มแล้วเหลือเวลาไม่มากเดินช้อปปิ้งไม่ทันห้างปิดแล้วได้แต่เล็งว่าร้านไหนลดราคา พรุ่งนี้เราจะกลับมาจัดการ   เดินกลับเข้าโรงแรมนอนก่อน 


วันที่ 2 เดินไปขึ้นรถ Monorail ที่สถานนี Bukit Bintang ไปลงสถานี Bukit Nanas ราคา MYR 1.60 แล้วลงไปขึ้นรถไฟสาย Rapid KL ที่สถานี Dang Wangi เพื่อไปลงสถานี KLCC ราคาตั๋วจำไม่ได้ แต่ไม่น่าเกิน MYR 2.00  ไปโผล่ที่ใต้ตึกห้าง Suria เดินถามทางเดินไปเพื่อไปตึก Petronas Twin Towers เจอแล้ว Twin Towers Visitor ชั้นใต้ดินนี่เอง ไปถึงประมาณ 8.30 น. เห็นแถวชาวต่างชาติยาวเชียว อ่ะต่อแถวไปเจ้าหน้าที่ก็มาแจกบัตรคิว ถามจำนวนคน 





ประมาณ 15 นาที ถึงคิว จ่ายตังเลือกรอบ 17.00 น. ตามแผนที่วางไว้ 



เวลาจวนเจียนแล้วก็เรียกแท็กซี่ไปลงที่ห้าง Berjaya Time Square เดินไปส่วนบริเวณโรงแรม Berjaya Hotel เพื่อรอรถตู้ไป Colmar Tropicale ที่เราซื้อตั๋วไว้  ถึงแล้วก่อนเดินไปขึ้นรถหาอะไรรองท้องก่อน



อ่ะรถตู้มาแล้วค่ะ


10.00 น. รถตู้ออกเดินทางจาก KL เข้าเขตรัฐปาหัง  ไต่ระดับภูเขาสูง  11.00 น. ไปถึง Colmar Torpicale รีสอร์ทสไตล์ฝรั่งเศสที่ Berjaya Hills Resort สวยงามดั่งภาพฝันจริงๆ  อากาศก็ดีไม่ร้อน  เข้าไปถ่ายรูปกันจนหนำใจ








เดินเที่ยว ทานอาหาร ตอน 12.00 น. มีการแสดงบนเวทีด้วย  ร้านอาหารในนั้นมีประมาณ 6 ร้านถ้าจำไม่ผิดเข้าไปดูเว็บไซต์เค้าได้ค่ะ อ่ะเลือกร้านใกล้เวทีการแสดง ร้านนี้ Le Poulet Roti
 


สั่งอะไรดีเอา Classic Roast แล้วกัน เลือกสูตร Pepper เครื่องเคียงให้เลือก 2 อย่างเป็น Pasta Tuna Salad และ Baked Beans เวลาเสิร์ฟหน้าตาเป็นงี้   


ใช่แล้วไก่อบจานนี้ราคา MYR 24.00 เสิร์ฟมาพร้อมกับ muffin 1 ชิ้น รสชาติก็พอทานได้อ่ะ กระเพาะ 2 สาวพออิ่ม มื้อนี้รวมค่าน้ำด้วยหมดไป MYR 29.00  กินไปชะเง้อดูการแสดงไปเสร็จแล้วเดินออกมาด้านหน้าขึ้นรถบริการเป็นรอบๆ ตามตาราง (ฟรีค่ะ)




รอบที่จะออกนี้พาไป Japanese Village ไปถึงแล้ว



เดินขึ้นไปทางดีแต่ชันผู้สูงอายุควรระวังเป็นพิเศษค่ะ  ในส่วนนี้มีทางเดินให้เลือกไปเราเลือกไป Japanese Garden ก่อน  ก็เป็นทางเดินที่มีสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่น มีน้ำตก ปลาคาร์ฟ ร่มรื่น มีแบบบ้านจำลองของชาวญี่ปุ่น เดินต่อไปเป็น Tatami Spa




แล้วเดินเป็นวงกลมอ้อมด้านหลังมาโผล่อีกข้างเป็นทางลงให้ไปชม Botanic Garden แต่ไม่ได้ชมเพราะเดี๋ยวจะยาวแล้วไม่ได้ไปจุดอื่น อ้อ ณ จุดนี้ใครหิวเค้าก็มี RYO ZAN TEI Restaurant  ไว้ให้บริการด้วยค่ะ เดินวกกลับมาด้านหน้าเข้าไปดูร้านขายของที่ระลึกเล็กน้อยแล้วลงกลับมาขึ้นรถบริการพากลับมาที่ Colmar Tropicale  และขึ้นรถบริการคันที่กำลังจะออกจะพาไปอีกเส้นทางหนึ่งเราเลือกลง Rabbit Park ลงไปเสียค่าบริการ MYR 3.00 ไปดูกระต่าย ดูกวาง ถ่ายรูปกับกระต่ายน้อย 



แล้วมารอรถด้านหน้าเหลือเวลาอีก 45 นาทีเท่านั้น ถ้าไปอีกจุดคงไม่ทัน รถมาแล้วขึ้นรถบริการกลับมายัง Colmar Tropicale เวลา 14.30 น. เดินกลับเข้าไปห้องน้ำ ไปร้านขนมไปซื้อเครื่องดื่มเย็นๆซักแล้ว ชามะนาวซักแก้วราคา MYR 5.80 โอเคเลยหายร้อนได้พักเหนื่อย 




(ชิ้นนี้ของจริงแต่ทำไว้โชว์นะคะไม่ขายค่ะ)

ใกล้เวลาแล้วเดินออกมาด้านหน้ารถตู้คัดเดิมรออยู่  15.00 น. รถตู้กลับตามเวลา พักสายตาบ้าง ชมวิวบ้าง เข้ามาใจกลาง Kuala Lumpur แล้วบอกเค้าว่าขอลงตรงที่ใกล้ตึกแฝดเพราะต้องไปขึ้นตึกรอบ  17.00 น. เค้าก็ปล่อยลงกลางสี่แยกที่เดินไปใกล้กับรถไฟ Rapid KL สถานี Ampang Park ซื้อตัวประมาณ MYR 1.00 มั้ง ไปลงสถานี KLCC ใต้ห้าง Suria เหมือนเมื่อเช้า ไปขึ้นตึกแฝดตามเวลา 17.00 น. ถ่ายรูปที่ SkyBridge ชั้น 41 วิวสวยงามจริงๆ 




แล้วไปต่อลิฟท์ที่ชั้น 83 เพื่อขึ้นลิฟอีกทีต่อไปยังชั้น 86 สำหรับตรงนี้มีเวลาประมาณ 20 นาที ใช้ให้คุ้มรัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง ยอดตึกสวยงาม  วิวสวยงาม อัศจรรย์กับฝีมือมนุษย์ที่สร้างตึกสูงให้เราเสียเงินขึ้นมาชม  ชอบมากๆค่ะ ถ่ายแล้วถ่ายอีกไม่เบื่อจนหมดเวลา





แล้วกลับลงมาที่ชั้น 83 มาอัพเดทเรื่องตึกสูงกัน Petronas Twin Towers เคยเป็นตึกสูงที่สุดในปี 1998 แต่ขณะนี้ตึกสูงที่สุดอยู่ที่ Dubai (ปี 2010) นะคะ 



เสร็จแล้วลงมาห้าง Suria เวลา 18.00 น. ได้เห็น Shop รองเท้า Vincci ลดกระหน่ำทั้งร้าน กระโจนเข้าใส่กองลด 50-70% ได้รองเท้ามาสมใจ 3 คู่ รวม MYR 94.00 



เดินไป 1 ชั่วโมง 19.00 น. ขึ้นแท็กซี่หน้าห้าง Suria กลับที่พักจ่ายไปทั้งหมด MYR 20.00 อ่ะใกล้แค่นี้แต่ตอนเย็นรถติด ถึงโรงแรมแล้วเอาสัมภาระไปเก็บ  แล้วออกมาทานข้าวหน้าโรงแรมที่เราพักซึ่งตอนค่ำๆจะเป็นย่านร้านอาหารจีนแบบนี้ค่ะ  เราเลือกร้านนี้ Cu Cha Restaurant เพราะเห็นคนเยอะดี  สั่งอะไรดีมาดูเมนูก่อน 




อ่ะ 2 อย่างน่าจะพออิ่ม ข้าวเปล่า 1 จาน ราคา MYR 1.00 หรือ สิบบาท สั่งเลย ปูผัดพริก Famous Spicy Crab เค้าขายตามน้ำหนัก สั่งมา 1 ตัว ขอสามคำสำหรับจานนี้ เข้มข้น สด อร่อยจริงๆค่ะ  เฉพาะจานนี้ราคา MYR 37




มาพร้อมกับอุปกรณ์ช่วยกินก้าม พร้อมน้ำให้ล้างมือ  จานต่อไป เป็นผัดผัก Fried Ladys Finger and Jack Beans with Spicy จานนี้เป็นกระเจี๊ยบ ถั่วพู หัวหอม พริกแดง ผัดกับน้ำพริกเผาบ้านเค้า น่าจะมีกะปิด้วยมีรสเค็มๆ แต่ไม่ค่อยมีกลิ่น รสชาติโอเคเลยเดี๋ยวจะมาหัดทำที่บ้านบ้าง ราคา MYR 10



มื้อนี้หมดไปเฉพาะค่าอาหารรวม MYR 39 ค่าน้ำอีก MYR 1.60 ค่ะ อิ่มแล้วสองทุ่มกว่ามุ่งหน้าสู่ห้าง Lot 10 ต่อด้วยห้าง Pavillion จนห้างปิด  22.00 น. ก่อนออกมาลองซักหน่อย J.Co Donut (ในห้าง Pavillion ชั้นเดียวกับ supermarket) เดินกลับโรงแรมมานั่งทานที่ห้อง รสชาติอร่อยดี ราคาชิ้นละ MYR 2.4 แป้งนุ่ม แต่คริสปี้ครีมที่มีขายบ้านเราแป้งนุ่มกว่าค่ะ(อันนี้ความรู้สึกส่วนตัว)  เวลา 4 ทุ่มถนนช้อปปิ้งของมาเลเซีย  ห้างปิดแล้วแต่ยังเต็มไปด้วยผู้คน ร้านอาหาร ยังเปิดอยู่  คึกคักมาก เป็นถนนที่ไม่เคยหลับก็ว่าได้
 




วันที่ 3  Check Out จากโรงแรม เรียกแท็กซี่ไปส่ง KL Sentral ราคา MYR 15  เวลา 9.45 น. ถึง KL Sentral  ไปขึ้น Skybus



ไปลงสนามบิน LCCT ไปถึงเวลาประมาณ 10.45 น. ถามหาที่ฝากกระเป๋า  อยู่ตรงข้ามร้าน OldTown White Coffee นี่เอง  เค้าคิดเป็น 1 วัน สำหรับล็อคเกอร์ขนาดเล็กราคา MYR 48 ก็จัดไปฝากไว้ 



แล้วก็แวะซื้อเครื่องดื่มที่ OldTown White Coffee กาแฟที่มีทั่วเมืองเพื่อนชิมแล้วบอกเฉยๆ ของเราเป็นรูทเบียร์ธรรมดา ราคา MYR 4.90 



แล้วเดินต่อไปขึ้นรถบัสสีชมพู LCCT เหมือนตอนมาวันแรกราคา MYR 5.50 ต่อไปลง KLIA Express สอดตั๋วที่ซื้อเมื่อกี้ที่สถานี Salak Tinggi เพื่อไปลงสถานีถัดไป Putrajaya Cyberjaya  ไปถึงเวลา 11.45 น. มีเวลาไม่มาก ไปถามรสบัสที่จะไปจุด Putra Mosque มีสาย 100, 300 และ 500 ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 15-30 นาที แล้วแต่สาย  คิดว่าจะไม่ทันการณ์เลยตัดสินใจเหมาแท็กซี่ 1 ชั่วโมง พาเที่ยวจุดสำคัญของเมือง Putrajaya  ในราคา MYR 39 บอกจุดที่เราจะไปเค้าก็รู้งานเพราะมีคนมาเที่ยวเยอะ  เมืองปูตราจายาเป็นเมืองสร้างใหม่ให้เป็นศูนย์ราชการ  ติดกันเป็นโซนผลิตและจำหน่ายธุรกิจ IT ของเค้าชื่อ Cyberjaya  ในปูตราจายาจึงมีแต่สถาปัตยกรรมตึกใหม่ทันสมัยและสวยงามลงตัว  ถ้าเราเป็นข้าราชการที่ทำงานที่นี่คงรู้สึกมีความสุขมากแน่ๆค่ะ   จุดแรกเค้าแท็กซี่พาเราจอดถ่ายรูปกับสะพานสวยๆตรงนี้ค่ะ (สะพานที่นี่แทบทุกสะพาน สวยงามอลังการค่ะ)



แล้วต่อไปที่ Putra Mosque หรือ มัสยิดปูตรา หรือ มัสยิดสีชมพู  อยู่ติดริมแม่น้ำ  ใหญ่โต สวยงามอลังการ 




ถัดไปเป็นลานด้านหน้ารัฐสภานักท่องเที่ยวเยอะค่ะจุดนี้ ไม่เหงาแน่นอน



และพาไปจอดถ่ายรูปตรงหน้ารัฐสภาพ 



เสร็จแล้วก็พาไปสะพานอีกแห่งที่เป็นเขื่อน 



และพาไปดูหน้าศูนย์ประชุมของเค้าค่ะ 


ตึกอื่นๆที่แวะถ่ายรูปค่ะ




แท็กซี่อัธยาศัยดีใช้ได้เลย  แนะนำสถานที่อธิบายให้ด้วยว่าตึกนี้หน่วยงานอะไร  กลับมาส่งที่สถานี KLIA Express เลยทิปไป MYR 4 ไม่รู้ว่ามากหรือน้อยแต่ก็อยากแสดงน้ำใจค่ะ  แล้วเราก็ซื้อตั๋วกลับไป LCCT ไปรับกระเป๋าเวลา 14.00 น. เข้าไปจะเช็คอิน ด้วยความเคยชินไม่ได้อ่านป้ายอะไรทั้งนั้น  เห็นเคาน์เตอร์ Airasia ตรงหน้าประมาณ 10 ช่องคิดว่าใช่แล้ว รอคิวนาน เริ่มกลัวตกเครื่อง ก็เอะใจเหมือนกันแต่ก็จะถึงคิวแล้วรอต่อไป  พอถึงคิวดันมีป้าย A4 ตรงหน้าว่าช่องนี้สำหรับประเทศอื่น ไม่มีรายชื่อประเทศไทย เอาล่ะทำไง  ไปถามเจ้าหน้าที่ บางคนชี้เข้า Gate บางคนชี้กลับมาอีกฝาก  จนเจอคนที่ 3 บอกให้เดินเข้าไปด้านในจะมี Counter R3-R12 โอ้โห ข้างในมีอีกหลายเคาน์เตอร์มาก เจอแล้ว Counter สำหรับโหลดกระเป๋าของประเทศไทย หวุดหวิดเกือบโหลดกระเป๋าไม่ทัน  ตรงนี้เพื่อนๆระวังด้วยนะคะฝากไว้เป็นอุทาหรณ์  คิดว่าเข้าช่องถูกแต่ไม่ใช่เสียเวลาไปเยอะอ่ะ  พอโหลดกระเป๋าได้ก็ต้องเดินวกออกมาไปเข้า Gate อีกด้าน อันนี้ก็อาจจะทำให้งงได้  ไปถึงให้อ่านป้ายให้ดีค่ะ  เข้า Gate ได้แล้ว ช้อปปิ้งก่อนกลับ



หิวนิดหน่อยหาอะไรรองท้อง  ผัดหมี่ไก่กล่องนี้ราคาประมาณ MYR 14.90 และ โค้กอีกขวด รวม 2 อย่างประมาณ  MYR 17.00  อ่ะท้องไม่ว่างแล้ว



เหลือเวลานิดหน่อยเดินไปแลกเงินคืน   เวลา 15.30 น. เครื่องบิน Take off ออกจาก มาเลเซียกลับประเทศไทย บนเครื่องหิวอีก จัดไป ชุดขนมจีบกับน้ำ 100 บาท มาม่า 60 บาท น้ำอีกขวด 30 บาท เพื่อนกินพิซซ่าอีก 1 ชิ้น 90 บาท  




ไปเที่ยวครั้งนี้กลับมาดูรูปอย่างมีความสุขใครว่ามาเลเซียเป็นเมืองอิสลามแล้วน่ากลัวคิดใหม่นะคะ  ตลอดเวลา 3 วันที่อยู่ที่นี่รู้สึกเลยว่าเค้าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไม่ต่างจากสิงค์โปร์เท่าไหร่เพียงแต่ถนนหนทางอาจจะดูไม่ international ป้ายหายบ้าง งงบ้าง เท่านั้นเอง ส่วนประชากรก็มีชาวอิสลามประมาณ 50% ซึ่งทุกคนที่ถามทางทั้งคนจีน หรือ คนมุสลิม หลากหลายอาชีพ  ทั้งตำรวจ พ่อค้า คนขับรถแท็กซี่ คนขับรถตู้ คนทำงาน office คุยด้วยอัธยาศัยดี  พูดภาษาอังกฤษได้  แนะนำเราได้อย่างดีและมีน้ำใจ (ยกเว้นตลาดไชน่าทาวน์ สาวสวยไม่ควรไปคนเดียวค่ะ ไม่ได้อันตราย แต่พ่อค้าแซวเกรียวกราวมาก อาจจะเขินได้ค่ะ)  ยังมีโปรแกรมไปเที่ยวมาเลเซียอีกครั้งในเดือน ก.ค. ที่เมืองปีนังนะคะ ไว้จะมารีวิวให้ค่ะ หวังว่ารีวิวครั้งนี้คงมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่คิดจะไปเที่ยวมาเลเซียไม่มากก็น้อย Malaysia Truly Asia จริงๆ     

หมายเหตุ- แลกเงินสดติดตัวไป 6,000 บาท ซื้อของบ้างจุกจิก ส่วนใหญ่เป็นค่าอาหาร ค่าสถานที่ท่องเที่ยว ค่าเดินทาง ส่วนสินค้าราคาเกิน 500 บาทไทยส่วนใหญ่ใช้บัตรเครดิต  จบการเดินทางมีเงินเหลือกลับมา 500 บาท

ค่าเครื่องบินจองล่วงหน้าโปรไม่ได้ถูกมาก คนละ 4,XXX บาท ค่าโรงแรม จองล่วงหน้าคืนละ 1,1XX บาท ค่ะ

ทริปปีนังเสร็จแล้วค่ะ
-->>

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้